Suvarnabhumi
Airport
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ให้เป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคเอเชียโดยมีนโยบายและเป้าหมายชัดเจนที่จะพัฒนาคุณภาพการให้บริการของ ทสภ. ให้ได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 10 ท่าอากาศยานที่มีคุณภาพการบริการดีที่สุดในโลก
มารู้จักสุวรรณภูมิ
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือ สนามบินสุวรรณภูมิ (ชื่อเดิม: สนามบินหนองงูเห่า) เป็นสนามบินตั้งอยู่ที่ ถนนบางนา-ตราด
ในตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดใช้งานวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยใช้งานแทน
ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
นโยบายรัฐบาลได้กำหนดท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ
และจะเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค เอเชียอาคเนย์
ท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม
Airport of Smiles หรือท่าอากาศยานแห่งรอยยิ้ม เป็นความภูมิใจของพนักงานทุกคนที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่จะเป็นตัวแทนของคนไทยในการทำหน้าที่ต้อนรับและส่งผู้โดยสารจากทั่วทุกมุมโลก
ด้วยบริการด้วยรอยยิ้มอันเป็นเอกลักษณ์ของคนไทย เพื่อให้ทุกคนที่มาใช้บริการมีความสุขและประทับใจ
ข้อมูลทั่วไป
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานชื่อ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ”ซึ่งมีความหมายว่า “แผ่นดินทอง” และทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันเสาร์ที่ 19
มกราคม พุทธศักราช 2545ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แผ่นดินทองประตูสู่เอเชียท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ (8,000 เอเคอร์) ตั้งอยู่บนถนนบางนา -
ตราด กม. 15 อยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพมหานคร 25 กม.
ศักยภาพ
รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี
รองรับผู้โดยสารได้ 45 ล้านคนต่อปี
รองรับเที่ยวบินได้ 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
รองรับการขนถ่ายสินค้าได้ 3 ล้านตันต่อปี
อาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
เป็นอาคารเดี่ยวขนาดใหญ่
ให้บริการผู้โดยสารทั้งใน และระหว่างประเทศในอาคารเดียวกัน มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ
563,000 ตารางเมตร
อาคารผู้โดยสาร
มีทั้งหมด 7 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น
ชั้นที่ 1 Bus และแท็กซี่ ล็อบบี้
ชั้นที่ 2 ส่วนบริการผู้โดยสารขาเข้าทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ชั้นที่ 3 ร้านค้า ร้านอาหาร และห้องรับรองบุคคลทั่วไป (CIP)
ชั้นที่ 4 ส่วนบริการผู้โดยสารขาออก ประกอบด้วย พื้นที่บริการผู้โดยสาร Premium ของสายการบินไทยจุดตรวจหนังสือเดินทาง จุดตรวจศุลกากร เคาน์เตอร์สายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ท่าอากาศยาน
ชั้นที่ 5
สำนักงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
และกลุ่มสายการบินพันธมิตร Star Alliance
ชั้นที่
6 ศูนย์ให้บริการแบบครบวงจรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชั้นที่ 7 จุดชมทัศนียภาพ ส่วนชั้นใต้ดินมีการแบ่งสัดส่วนเป็นสถานีรถไฟ ชานชาลารถไฟและพื้นที่ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า
ชั้นที่ 7 จุดชมทัศนียภาพ ส่วนชั้นใต้ดินมีการแบ่งสัดส่วนเป็นสถานีรถไฟ ชานชาลารถไฟและพื้นที่ของระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า
อาคารเทียบเครื่องบิน
เป็นอาคารสูง 4 ชั้น มี 7 หลังคือ
A, B, C, D, E, F, และ G อาคารเทียบเครื่องบิน
A , B ใช้บริการสำหรับผู้โดยสารภายในประเทศ อาคารเทียบเครื่องบิน
B ให้บริการสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ ช่วงเวลา 21.00-04.00
น. อาคารเทียบเครื่องบิน C, D, E, F, และ G
ให้บริการสำหรับผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ทางวิ่ง
ในระยะแรกมี 2 ทางวิ่ง คือทางวิ่งฝั่งตะวันออก ความยาว 4,000 เมตร กว้าง 60 เมตร และทางวิ่งฝั่งตะวันตก ความยาว 3,700 เมตร และกว้าง 60 เมตร มีทางขับ 52 เส้น
ลานจอดอากาศยาน
หอบังคับการบิน
มีความสูง 132.2 เมตร เป็นหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลกเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการให้บริการจราจรทางอากาศที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับรองรับปริมาณเที่ยวบินที่จะบินขึ้น – ลง ประมาณ 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ทางวิ่ง
ในระยะแรกมี 2 ทางวิ่ง คือทางวิ่งฝั่งตะวันออก ความยาว 4,000 เมตร กว้าง 60 เมตร และทางวิ่งฝั่งตะวันตก ความยาว 3,700 เมตร และกว้าง 60 เมตร มีทางขับ 52 เส้น
ลานจอดอากาศยาน
มีหลุมจอดอากาศยาน 120 หลุมจอด ในจำนวนนี้เป็นหลุมจอด
ที่มีสะพานเทียบเครื่องบินให้บริการ 51 หลุมจอด
หลุมจอดระยะไกล 69 หลุมจอด และมีหลุมจอดสำหรับเครื่องบิน Airbus
A380 ได้ 8 หลุมจอด เป็นหลุมจอดประชิดอาคาร 5
หลุมจอด
หอบังคับการบิน
มีความสูง 132.2 เมตร เป็นหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลกเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีการให้บริการจราจรทางอากาศที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่ง สำหรับรองรับปริมาณเที่ยวบินที่จะบินขึ้น – ลง ประมาณ 76 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
อาคารจอดรถยนต์
มี 2 อาคาร
ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร รองรับรถยนต์ได้ประมาณ 5,000 คัน และมีพื้นที่จอดรถ 30,000 ตร.ม.
ความสามารถในการรองรับ รถยนต์ 1,000 คัน
โรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ
ตั้งอยู่ห่างจากอาคารผู้โดยสารประมาณ 300 เมตร เป็นโรงแรม ขนาด 600 ห้อง และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหาร สปา และฟิตเนส
ประวัติความเป็นมาของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พ.ศ.2502 รัฐบาลมีความคิดริเริ่มในการสร้างท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่
พ.ศ.2503 รัฐบาลว่าจ้างบริษัท
ลิชฟิลด์ ศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้าง
โดยเสนอให้ตั้งอยู่ทางทิศตะวัน ออกเพื่อให้มีระยะ
ห่างและทิศทางที่เหมาะสมกับท่าอากาศยานสากลกรุงเทพ
ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการศึกษาขององค์การบริหาร
การบินพลเรือนแห่งชาติของสหรัฐอเมริก
พ.ศ.2504 กระทรวงคมนาคมเห็นว่าบริเวณหนองงูเห่า ในตำบลราชาเทวะ ตำบลหนองปรือ
และศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางพลี
จังหวัดสมุทรปราการเหมาะสมที่จะเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานแห่งใหม่
พ.ศ.2514 บริษัท นอร์ทรอป แอร์ปอร์ต ดีเวลลอปเมนต์
คอร์ปอเรชั่น จำกัด ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลในการก่อสร้างและดำเนิน กิจการท่าอากาศยานแห่งที่
2 ในลักษณะสัมปทาน 20 ปี
พ.ศ.2516 กรมการบินพาณิชย์ได้จัดซื้อ เวนคืน
และใช้ที่สาธารณประโยชน์บริเวณหนองงูเห่า เพื่อก่อสร้างท่าอากาศยาน
แห่งใหม่รวมพื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่
พ.ศ.2517-2534 รัฐบาลได้พิจารณาทบทวนสถานที่ก่อสร้างสนามบินพาณิชย์แห่งใหม่
พ.ศ.2534 คณะรัฐมนตรีมีมติให้ก่อสร้างท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่
2 ที่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้
การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการ
พ.ศ.2535 (กทก.) 20 มีนาคม 2535คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่
2 (กทก.) 25 มีนาคม 2535
คณะรัฐมนตรีมีมติให้จัดตั้งคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่
2 (กทก.)
พ.ศ.2538 16 พฤษภาคม 2538คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ตั้งบริษัท จำกัด
มีสภาพเป็นนิติบุคคลภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไทย ขึ้นมารับผิดชอบโดยตรง23 พฤษภาคม 2538การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทยว่าจ้างกลุ่มบริษัท MJTA ออกแบบอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบอากาศยาน
พ.ศ.2539 27 กุมภาพันธ์ 2539บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.)
ได้จัดตั้งขึ้นมีฐานนะเป็นรัฐวิสาหกิจ เพื่อรับผิดชอบการ ก่อสร้างโครงการท่าอากาศยานกรุงเทพแห่งที่2
พ.ศ.2540 คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ดำเนินการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประกอบด้วย
ทางวิ่ง 1 เส้นทาง สามารถรองรับ ผู้โดยสาร 20 ล้านคนต่อปี โดยมีเงินลงทุนประมาณ 68,832 ล้านบาท
พ.ศ.2541 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งที่
2 ดำเนินการก่อสร้างทางวิ่ง 2 เส้นทาง
เพื่อรองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปีโดยมีเงินลงทุน 120,000
ล้านบา
พ.ศ.2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานชื่อ “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ซึ่งมีความหมายว่า“แผ่นดินทอง”
พ.ศ.2545 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พ.ศ.2548 คณะรัฐมนตรีโดยสารเที่ยวบินปฐมฤกษ์จากท่าอากาศยานกรุงเทพสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พ.ศ.2549 28 กันยายน 2549
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการ
ตราสัญลักษณ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
รายละเอียดของตราสัญลักษณ์ สื่อถึงความเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้อย่างลงตัว
เพราะมีมุมมองที่แสดงถึงทัศนียภาพ ของท่าอากาศยานแฝงอยู่ โดยแถบเส้นสีน้ำเงิน 3 เส้นด้านล่างแสดงถึงรันเวย์ของท่าอากาศยาน
แถบสีทองด้านบน 2 เส้น แสดงถึงเครื่องบิน
ที่กำลังจอดนิ่งอยู่ ในบางมุมมองแถบเส้นสีน้ำเงินยังดูคล้ายส่วนหลังคาของอาคารของท่าอากาศยานด้วย รูปร่างโดยรวมของตราสัญลักษณ์
เป็นรูปแบบเชิงนามธรรม แสดงถึงการบินการพุ่งทะยานขึ้น
สื่อถึงความก้าวหน้าขององค์กร และการเป็นผู้นำทางการคมนาคม และการขนส่งทางอากาศ
ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่สำคัญ และยังสื่อถึงความเจริญก้าวหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง
ขององค์กร เส้นสายของตราสัญลักษณ์
เป็นการผสมผสานรูปแบบทางศิลปะของไทย และสากล โดยมีส่วนที่แสดงออกถึงความเป็นไทย
อันได้รับ แรงบันดาลใจจากเส้นสายลายไทยมาประยุกต์ใหม่ให้เกิดเป็นความสากล
สื่อถึงท่าอากาศยานนานาชาติประจำชาติไทย
ตัวอักษรคำว่า “Suvarnabhumi”
ออกแบบขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อประกอบ กับตราสัญลักษณ์
โดยส่วนปลายของตัวอักษรมีการดัดแปลงเพื่อ แสดงถึงเอกลักษณ์ ความเป็นไทย
สื่อถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นท่าอากาศยานประจำชาติไทย ได้ชัดเจน
สีทอง (Copper Gold) เป็นสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรือง
สื่อถึงดินแดนสุวรรณภูมิ อันเป็นชื่อของท่าอากาศยาน และแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองขององค์กร
สายการบิน
ความเป็นที่สุด
ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ
ศูนย์กลางการบินและประตูสู่เอเชีย ให้บริการ 102 สายการบิน
สู่ 142 เมืองทั่วโลก สำหรับสายการบินระหว่างประเทศ
ความเป็นที่สุด
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ได้รับการกล่าวถึงว่าเป็น "ความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ"
และยังเป็นที่กล่าวขวัญถึง "ความเป็นที่สุด" ในหลายๆ ด้าน ดังต่อไปนี้
- หอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก
ด้วยความสูง 132.2 เมตร
พร้อมระบบการนำร่องอากาศยานที่ทันสมัย
-
โรงซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก
มีขนาดพื้นที่จอดเครื่องบินรวม 27,000
เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาดยักษ์แอร์บัส 380 ได้พร้อมกัน 3 ลำ โรงซ่อมเป็นอาคารสูง 35
เมตร กว้าง 90 เมตร ยาว 270 เมตร โดยไม่มีเสากีดขวาง
โครงหลังคาใช้วัสดุเหล็กที่มีลักษณะเป็นซูเปอร์สตรักเจอร์ที่ใช้คานเหล็ก
มีน้ำหนักรวม 10,000 ตัน ใช้เงินลงทุนก่อสร้างกว่า 1,200
ล้านบาท
- ล็อบบี้ของโรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารผู้โดยสาร มีห้องพักถึง 600 กว่าห้อง เป็นบริเวณล็อบบี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- เป็นสนามบินที่ทำสถิติใช้ระยะเวลาการก่อสร้างยาวนานที่สุด ถึง 45 ปี
- มีเรื่อง “ฉาวโฉ่เรื่องการทุจริต” มากที่สุด ตั้งแต่เริ่มคิดโครงการเมื่อ พ.ศ. 2503 เรื่อยมาจนการเริ่มการก่อสร้าง
-
อาคารผู้โดยสาร เป็นอาคารผู้โดยสารเดี่ยว
(มิใช่กลุ่มอาคาร) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ในการก่อสร้างครั้งเดียว
โดยมีพื้นที่ใช้สอยถึงประมาณ 563,000
ตร.ม.
ซึ่งต่อมาทางสนามบินนานาชาติฮ่องกงได้ต่อเติมอาคารผู้โดยสารที่ 1 ออกไป จนมีขนาด 570,000 ตร.ม.
ใหญ่กว่าของสุวรรณภูมิ
-
สนามบินที่ใหญ่ที่สุด
ทันสมัยที่สุดในโลก
- ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยที่สุดในโลกระบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานทุกกิจกรรม ที่ใช้ระบบไอทีติดอันดับโลก โดยถูกเชื่อมโยงด้วยระบบเทคโนโลยีทันสมัยที่เรียกว่า AIM (Airport Information Management System)
- อัตราค่าธรรมเนียม หรือ landing fee ที่ต่ำที่สุด เทียบกับสนามบินทั้งหมดในแถบภูมิภาคเดียวกัน
เกร็ดข้อมูล มหัศจรรย์เลข 9
นอกเหนือกิจกรรมที่จัดขึ้น
โดยการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 9
เดือน 9 (กันยายน 2549) ซึ่งมีการวิ่งเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 9 โดยมีนักวิ่งจากภูมิภาคต่างๆ (จำนวนที่ลงทะเบียน
9,999 คน) แล้ว เป็นที่น่าสังเกตถึง มหัศจรรย์เลข 9ดังต่อไปนี้
- อาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน มีระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้น 9 เมตร ซึ่งเสาหลัก (เสาไพลอนที่ค้ำซูเปอร์ทรัส) หรือคานหลักรั้น มี 2 ตัวต่อ 1 คาน รวมกันเป็น 1 ชุด
- เสา 2 ตัวที่ค้ำคานนี้จะห่างกัน 81 เมตร (8+1=9)
- ชุดเสาที่อยู่ทางทิศตะวันออกจะห่างจากชุดเสาทางด้านทิศตะวันตก 126 เมตร (1+2+6=9)
- หลังคาผ้าใยสังเคราะห์ที่ติดตั้งกับอาคารเทียบเครื่องบินทั้งหมด 108 ช่วง (1+0+8=9)
- สำหรับทางเลื่อนระนาบผิวเฉพาะในเทอร์มินอลมีทั้งหมด 95 ชุด มีความยาวตั้งแต่ 27 เมตร (2+7=9) และ 108 เมตร (1+0+8=9)
- ความเร็วของทางเลื่อนในอาคารรวมทั้งทางเลื่อนลาดเอียง มีความเร็วนาทีละ 45 เมตร (4+5=9)
สภาพโดยทั่วไป
ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานที่มีการให้บริการด้านการบินที่ หลากหลาย ทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินไม่ประจำภายในประเทศ รวมทั้งเที่ยวบินไม่ประจำระหว่างประเทศ ด้วยทำเลที่ดี สถานที่กว้างขวาง อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ ทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็น ท่าอากาศยานที่ผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นท่าอากาศยานที่มีการให้บริการด้านการบินที่ หลากหลาย ทั้งเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินไม่ประจำภายในประเทศ รวมทั้งเที่ยวบินไม่ประจำระหว่างประเทศ ด้วยทำเลที่ดี สถานที่กว้างขวาง อีกทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ ทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองเป็น ท่าอากาศยานที่ผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ตำแหน่งที่ตั้ง
ตั้งอยู่ที่ลองจิจูดที่
100˚ 36΄ 20˝ และละติจูดที่ 13˚54΄ 52˝ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 9 ฟุต
ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเทพไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 21.6
กิโลเมตร
ข้อมูลจำเพาะของท่าอากาศยาน
ICAO : VTBD IATA : DMK เวลาในการให้บริการ
24 ชั่วโมง
จำนวนรันเวย์
- 2 ทางวิ่งรันเวย์ 21R/03L - ยาว 3,700
เมตร, กว้าง 60 เมตร (12,139
ฟุต/197 ฟุต)
- รันเวย์ 21L/03R - ยาว 3,500 เมตร, กว้าง 45 เมตร (11,461 ฟุต/147 ฟุต
![]() |
Contact Gate |
จุดจอดอากาศยาน
101 หลุมจอด โดยแบ่งเป็นหลุมจอดที่เชื่อมต่อกับประตูทางออกอาคารผู้โดยสาร(Contact
Gate) อาคาร 1 จำนวน 35 หลุมดจอด
(ใช้จริง 14 หลุมจอด)
และเป็นหลุมจอดที่ไม่เชื่อมต่อกับประตูทางออก(Remote Parking) จำนวน 66 หลุมจอด
ความสามารถในการรองรับ
60 เที่ยวบิน ต่อชั่วโมง จำนวนแท็กซี่เวย์
23
จำนวนเคาน์เตอร์เช็กอิน
167 เคาน์เตอร์อาคารผู้โดยสาร
อาคาร 1 มีเคาน์เตอร์เช็กอิน 124 เคาน์เตอร์
(ใช้จริง 32 เคาน์เตอร์)
ประวัติความเป็นมา
ท่าอากาศยานดอนเมืองตั้งอยู่เลขที่ 222 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10210 เดิมใช้ชื่อว่า สนามบินดอนเมือง ครั้นในปีพ.ศ. 2498 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น
ท่าอากาศยานกรุงเทพ และเมื่อบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)
ได้เปิดใช้งานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2549 โดยใช้ IATA Code เป็น BKK ท่าอากาศยานกรุงเทพจึงเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น
ท่าอากาศยานดอนเมือง เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2550 ใช้ IATA Code เป็น DMK ปัจจุบัน ท่าอากาศยานดอนเมืองให้บริการ General Aviation, State
Aircraft, Military Aircraft, Government Aircraft, Pure Technical Landing, Pure
Chartered Flight และเพิ่มการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์
ภายในประเทศแบบ point to point ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2550 เป็นต้นมานอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 1
สิงหาคม 2554 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) ได้ย้ายการให้บริการเที่ยวบินและผู้โดยสารภายในประเทศที่ท่าอากาศยานดอนเมือง
จากอาคารผู้โดยสารภายในประเทศไปยังอาคาร 1 เพื่อเป็นการเตรียมพื้นที่สำหรับการดำเนินงานตามแผนการใช้ประโยชน์ท่าอากาศยาน ดอนเมืองจากการมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีสถานที่ที่กว้างขวาง
รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการที่ได้มาตรฐานสากล ท่าอากาศยานดอนเมืองสามารถรองรับเที่ยวบินได้
60 เที่ยวบิน/ชั่วโมง รองรับผู้โดยสารเฉพาะภายในประเทศได้ 16
ล้านคน/ปี และรองรับการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในประเทศได้มากกว่า 12,490
ตัน/ปี
![]() |
วันที่ 21 มิถุนายน 2498 สนามบินได้มีการเปลี่ยนชื่อที่ใช้อย่างเป็นทางการจาก Donmuang Airport มาเป็น Bangkok Airport
|
Hat Yai Airport
สภาพโดยทั่วไป
ท่าอากาศยานหาดใหญ่
เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานสำคัญที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย
จำกัด มหาชน โดย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ตั้งอยู่ในโซนธุรกิจการค้าทางภาคใต้
เป็นเสมือนประตูทางเข้าสำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อธุรกิจการค้า หรือท่องเที่ยว
ทางตอนใต้ของประเทศไทย
รวมถึงเป็นเสมือนช่องทางการเดินทางสำหรับชาวมุสลิมในการเดินทางไปเเสวงบุญที่
นครเมกกะ ปัจจุบันมี 6 สายการบินให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 1,283,194 คน
เที่ยวบิน 9,050 เที่ยว เเละบริการขนถ่ายสินค้ามากกว่า 10,
891 ตัน ต่อปี
ตำเเหน่งที่ตั้ง
ตั้งอยู่ที่
ลองจิจูด 100°
23' 42" เเละ ละติจูด 06° 55' 58" อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล
90 ฟุต ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ 9 กิโลเมตร
ข้อมูลจำเพาะของท่าอากาศยาน
เวลาในการให้บริการ:
06.00 น. - 24.00 น.
รันเวย์: 08/26 ยาว 3,050 เมตร กว้าง 45 เมตร
ความสามารถในการรองรับเครื่องบิน: 30 เที่ยวบิน ต่อชั่วโมง
ลักษณะของพื้นผิวทางวิ่ง:
Asphalt/Concrete
ความทนทาน: PCN
60/F/C/X/T
แท๊กซี่เวย์: 9
เนื้อที่โดยประมาณ: 2,970 ไร่
จุดจอดเครื่องบิน: จุดจอดเครื่องบินมี 7 จุด 3 จุดที่เชื่อมต่อกับประตูทางออกโดยตรง 4 จุดไม่เชื่อมต่อกับประตูทางออก
อาคารผู้โดยสาร
ประวัติความเป็นมา
ท่าอากาศยานหาดใหญ่ เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานสำคัญที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด มหาชน โดย ท่าอากาศยานหาดใหญ่ตั้งอยู่ในโซนธุรกิจการค้าทางภาคใต้ เป็นเสมือนประตูทางเข้าสำหรับผู้ที่ต้องการติดต่อธุรกิจการค้า หรือ ท่องเที่ยว ทางตอนใต้ของประเทศไทย รวมถึงเป็นเสมือนช่องทางการเดินทางสำหรับชาวมุสลิมในการเดินทางไปเเสวงบุญที่ นครเมกกะ
การบริหารจัดการด้านมาตรฐานความปลอดภัยที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน
ของ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
ความปลอดภัยเป็นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงในการดำเนินงานของท่าอากาศยานโดยเฉพาะการปฏิบัติงาน
ในเขตการบิน (Airside)
เนื่องจากเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานซึ่งมีการดำเนินงานที่ซับซ้อนและหลากหลาย
จึงมีความเสี่ยงที่จะนำไปสู่การเกิดอุบัติเหต ุและนำไปสู่ความสูญเสียมหาศาลตามมา
ดังนั้น บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการบริหารงานท่าอากาศยานระหว่างประเทศทั้ง 6
แห่ง คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานเชียงราย
ให้เกิดความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ของรัฐ
ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ภาคผนวกที่ 14 ที่กำหนดให้ ท่าอากาศยานทุกแห่ง
โดยเฉพาะท่าอากาศยานระหว่างประเทศจะต้องจัดทำคู่มือการดำเนินงานสนามบิน
และจัดให้มีระบบการจัดการด้านนิรภัยของสนามบิน (Safety Management
System-SMS) เพื่อใช้ประกอบการขอใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะ
(Aerodrome Certificate) จากหน่วยงานกำกับของรัฐ
ซึ่งหน่วยงานกำกับด้านการบินของประเทศไทย คือ กรมการบินพลเรือน (บพ.)
อ้างอิงจาก: http://www.suvarnabhumiairport.com/index_th.php
http://www.bkkfly.com/suvarnabhumi.html
http://www.thaibizcenter.com/KnowledgeCenter.asp?kid=194
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2006/09/E4682065/E4682065.html
http://www.airportthai.co.th
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น